ในชีวิตประจำวันของเราทุกวันนี้ก็ต้องยอมรับกันตรงๆ ว่า การฟังเพลง นับเป็นส่วนนึงในชีวิต ที่เข้ามาโดยเราแทบไม่รู้ตัวด้วยซ้ำ มารู้ตัวอีกที ใครหลายคนสามารถฟังเพลงได้ในทุกๆ สถานที่ ไม่ว่าจะบนรถไฟฟ้า ในรถประจำทาง รถส่วนตัว หรือเดินอยู่บนริมเดินทางทั่วไป
การฟังเพลง เราสามารถเลือกฟังได้จากหลายแหล่งหลายที่ ไม่ว่าจะเป็นทางโทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ หรือแม้กระทั่งวิทยุ แต่ในยุคสมัยนี้ สตรีมมิ่งเพลง สตรีมมิงมิวสิก ที่เป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น หรือคนวัยทำงาน ก็มีหลายค่าย ทั้ง Apple Music, Youtube Music, JOOX, Soundcloud แต่ที่ฮิตสุดๆ ที่เราจะมาพูดถึงกันวันนี้ก็คือ Spotify นั่นเอง
Spotify คืออะไร?🎧
Spotify ผู้ให้บริการสตรีมมิงมิวสิกยักษ์ใหญ่จากสวีเดน ใช้สำหรับฟังเพลง ในปัจจุบันมียอดผู้ใช้บริการมากกว่า 200 ล้านคนทั่วโลก เปิดบริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2008 สปอติฟาย (Spotify) พัฒนาโดยบริษัทสตาร์ตอัปชื่อ สปอติฟายเอบี เกิดขึ้นจากความร่วมมือระหว่าง Daniel Ek และ Martin Lorentzo ซึ่งเป็นนักเทคโนโลยีและผู้ประกอบการ (entrepreneur) เริ่มบริษัทสตาร์ทอัพดังกล่าวขึ้น จนกระทั่งกลายมาเป็นบริษัท music streaming บริษัทหนึ่งที่มีอิทธิพลอย่างมากในปัจจุบัน
ซึ่งหลังจากเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในประเทศไทยก็สร้างความฮือฮาในวงการสตรีมมิงมิวสิกประเทศไทยได้ไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งก่อนที่ Spotify จะเข้าไทย ผู้ใช้บริการที่รักเสียงดนตรีจะต้องแอบเปลี่ยน VPN อย่างลับๆ เพื่อใช้บริการ Spotify อยู่เนืองๆ ก็ตาม
จุดเด่นของ สตรีมมิงเพลง Spotify🎼
‘ความใจป๋า สายเปย์’ ที่ไม่ต้องเสียเงินก็ใช้บริการได้แบบฟรีๆ Spotify เปิดตัวด้วยการเป็นบริการสตรีมมิงมิวสิกแบบฟรีเมียม (Freemium) คือผู้ใช้ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก็สามารถใช้บริการได้แบบฟรีๆ ช่วยให้ผู้บริการหน้าใหม่มีโอกาสได้ทดลองใช้และรู้จักบริการ Spotify ก่อนตัดสินใจสมัครบริการพรีเมียมแบบเสียเงิน หรือถ้าใครจะไม่อยากเสียเงินเลย ก็สามารถใช้บริการแบบฟรีต่อไปภายใต้ฟีเจอร์ที่จำกัด เช่น ไม่สามารถเลือกเพลงที่ต้องการฟังได้ ต้องเล่นแบบสุ่ม (Shuffle) เท่านั้น, เล่นเพลงแบบออฟไลน์ไม่ได้ และไม่สามารถกดข้ามโฆษณาหรือเลือกกดเร่งเพลงได้เลย เป็นต้น
ฟีเจอร์การใช้บริการฟรีของ Spotify ในรูปแบบนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ความต้องการของใครหลายคนในช่วงที่ข้าวยากหมากแพงและอยากใช้บริการสตรีมมิงมิวสิกฟังเพลงใหม่ๆ ที่หลากหลายโดยไม่ต้องเสียเงิน และในขณะเดียวกัน ยอดผู้ใช้งานที่สมัครใช้บริการแบบพรีเมียมเสียเงินก็ไม่ได้ลดลงไปเลยด้วยซ้ำ ตรงกันข้าม Spotify กลับมียอดผู้ใช้งานทั้ง 2 ประเภทเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี
3 ข้อสำคัญในการเจาะตลาดของ Spotify💚
1.การเลือกเจาะตลาดระดับแคบ
Spotify เลือกที่เจาะกลุ่มเป้าหมายจากคนในประเทศสวีเดนก่อน เนื่องจากทาง Spotify รู้ดีว่าถ้าเริ่มต้นด้วยการเจาะตลาดขนาดใหญ่ในสหรัฐอเมริกาเป็นลำดับเเรก ผลตอบรับก็อาจจะไม่ดีเท่าที่ควร ซึ่งหลังจากที่ตีตลาดในสวีเดนได้แล้ว ทาง Spotify จึงค่อยๆ ขยายไปยังประเทศอื่นในโซนยุโรป
2.ให้ความสำคัญกับสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็นหรือไม่สนใจ
Spotify เลือกที่จะให้ความสำคัญกับสิ่งที่คนอื่นอาจจะมองไม่เห็นหรือไม่สนใจ เช่นความคิดในการสร้างโลกดนตรีและการฟังเพลงบนอากาศตั้งแต่ยุคที่สตรีมมิงมิวสิกยังไม่เป็นที่นิยม
3.ดำเนินทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมาย
ทาง Spotify นึกถึงข้อกฎหมายเป็นสำคัญ ดำเนินทุกอย่างให้ถูกต้องตามกฎหมายกับอุตสาหกรรมค่ายเพลง ยกตัวอย่างเช่น ในปี 2008 Spotify ประกาศเซ็นสัญญากับค่ายเพลงชั้นนำอย่าง Universal Music Group, Sony BMG, EMI Music, Warner Music Group, Merlin, The Orchard และ Bonnier Amigo เพื่อนำเพลงยอดนิยมทั้งหลายมาบรรจุไว้ในบริการ Spotify ให้ถูกลิขสิทธิ์
วิธีใช้งาน Spotify Wrapped🎤
เมื่อเปิดแอปบน Android, iOS, iPadOS, Windows หรือ macOS ก็จะเห็นแบนเนอร์Spotify Wrapped 2024 บนหน้าหลัก ให้กดที่แบนเนอร์เพื่อเริ่มต้นการดูข้อมูลการฟังเพลงตลอดปี
ตัวรายงานจะถูกนำเสนอในรูปแบบ “สไลด์โชว์” คล้ายสตอรี่ของแพลตฟอร์มโซลเชียลมีเดีย ที่จะแสดงไฮไลต์การใช้งานตั้งแต่ เพลงที่ฟังมากที่สุด, ศิลปินที่ฟังบ่อยที่สุด จนถึงระยะเวลาการฟังเพลงตลอดปีที่ผ่านมา และหน้าสุดท้ายของสไลด์ก็จะเป็นส่วนที่ให้เราสามารถดาวน์โหลดเป็นไฟล์รูปภาพเพื่อเอาไปโพสต์แชร์ต่อได้
Spotify Wrapped 2024 ไม่ได้เป็นแค่ฟีเจอร์ แต่เป็นเหมือนเสียงเพลงที่สะท้อนเรื่องราวชีวิตของเรา ทั้งช่วงเวลาที่สุข เศร้า หรือสำเร็จ เพลงที่เราฟังเป็นเหมือนเพื่อนร่วมทางที่เข้าใจเราในทุกช่วงเวลา
หากใครอยากดู Spotify Wrapped ของตัวเอง เพียงเปิดแอป Spotify แล้วไปที่หน้าแรก (Home) เพื่อค้นหา Wrapped ของตัวเอง และอย่าลืมอัปเดตแอปให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพื่อให้ใช้งานได้ราบรื่นยิ่งขึ้น