VPN หรือ Virtual Private Networks เป็นวิธีที่ดีที่สุดในการท่องโลกอินเตอร์เน็ต ด้วยการปกปิดตัวตนโดยสมบูรณ์ เมื่อใช้งาน VPN แล้ว จะไม่มีใครสามารถแทรกแซงหรือเข้าถึงกิจกรรมบนเว็บของเราได้ VPN สามารถทำให้เราเข้าถึงเนื้อหาเว็บที่มีการจำกัดอย่างอิสระ ในบทความนี้เราจะเจาะลึกถึงแง่มุมที่ผู้ใช้สงสัยและมีคำถามเข้าตลอดว่า ทำไมเวลาเชื่อมต่อ VPN แล้วทำให้ความเร็วอินเทอร์เน็ตช้าลง?
เริ่มต้นด้วยการเลือกใช้งาน VPN กันเลย VPN ที่ดีนั้นแทบจะไม่พบเจอปัญหาเรื่องความเร็วและยังมีความปลอดภัยสูง ไม่เก็บข้อมูลการใช้งานของลูกค้า สำหรับตัวเลือก VPN ที่ดีนั้น ขอแนะนำให้เลือกใช้งาน BullVPN ซึ่งเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากคุณกำลังมองหา VPN ที่น่าเชื่อถือ ปลอดภัย และรวดเร็ว
ปัจจัยส่งผลกระทบต่อความเร็วอินเตอร์เน็ต
-
ระยะทางเซิร์ฟเวอร์ VPN
ความเร็วจะมีประสิทธิภาพมากหรือน้อยนั้น ระยะทางที่คุณอยู่ห่างจากเซิร์ฟเวอร์ที่เลือกใช้งานใกล้ ไกล แค่ไหนก็มีส่วนที่จะทำให้อินเตอร์เน็ตช้าหรือเร็วเช่นกัน หมายความว่าเวลาที่คำสั่งการเดินทางและส่งคืนข้อมูลกลับมาถ้ายิ่งไกล ก็อาจจะทำให้ช้าได้นั้นเอง ในปัจจัยนี้สามารถแก้ไขได้โดยเลือกเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ที่ใกล้ที่สุดจากตำแหน่งของคุณ ตัวอย่างเช่น หากคุณอยู่ในสหรัฐอเมริกา การเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ในแคนาดาจะดีกว่าเลือกเชื่อมต่อเซิร์ฟเวอร์ในรัสเซียหรือออสเตรเลีย -
VPN ฟรี
ตามความจริงแล้ว ไม่แนะนำและไม่ควรที่จะใช้งาน VPN ฟรี หากคุณให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว และยิ่งไปกว่านั้น ยังมีข้อข้อเสียหลายอย่างทั้งในด้านประสิทธิภาพและคุณสมบัติการใช้งาน VPN ฟรี จะค่อนข้างมีแต่เซิร์ฟเวอร์ที่ช้าให้คุณเลือกใช้และ VPN ฟรีส่วนใหญ่ไม่อนุญาตให้เปลี่ยนเป็นเซิร์ฟเวอร์อื่นๆ ได้มากนัก ในกรณีนี้ VPN ฟรี อาจจะช่วยเรื่องการปลดบล็อกเว็บไซต์เท่านั้น แต่เรื่องความปลอดภัยและความเร็วที่ดี แนะนำให้ใช้แบบชำระเงินจะดีกว่า -
การเลือกใช้โปรโตคอล
ตัว BullVPN นั้น รองรับการเข้ารหัส AES 256 บิต ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรฐานการเข้ารหัสที่ดีที่สุดในปัจจุบัน และการถอดรหัสนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย แต่ด้วยการรักษาความปลอดภัยนั้นมาพร้อมกับความเร็วที่ไม่ได้รวดเร็วมาก สำหรับผู้ใช้ทั่วไป อาจไม่ใช่ปัญหา แต่เมื่อคุณสตรีมเกมหรือต้องการความเร็วที่เสถียรที่สุด เช่น ภาพยนตร์ 4K คุณสามารถลองเปลี่ยนไปใช้โปรโตคอลอื่นที่เร็วกว่า เพราะเรายังมีโปรดตคอล OpenVPN IKEv2 และ WireGuard ให้เลือกใช้งานได้อีก
-
จำนวนผู้ใช้งานเซิร์ฟเวอร์
จำนวนผู้ใช้งานสูงสุด หมายถึง เวลาใน ณ ขณะที่คุณใช้งานนั้น มีผู้ใช้งานอื่นๆ ใช้บริการอยู่เช่นกัน จึงเรียกว่ามีจำนวนผู้ใช้งานสูงสุด โดยที่ผู้ใช้งานเลือกใช้เซิร์ฟเวอร์เดียวกันหลายๆ คนก็จะเป็นไปได้ว่าประสิทธิภาพเรื่องความเร็วก็จะตอบสนองช้าลงเช่นกัน สาเหตุจากการที่ผู้ใช้งานเซิร์ฟเวอร์ล้นหลาม การตอบสนองคำขอมากเกินไป ให้ลองเปลี่ยนไปใช้เซิร์ฟเวอร์อื่นๆ ดูแทน ก็จะแก้ไขปัญหาได้ -
ไวไฟ (Wifi) / อินเตอร์เน็ต (Internet)
ความแรงของสัญญาณเครือข่ายผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตก็มีผลอย่างมาก ความเร็วจากการเชื่อมต่อ VPN จะลดลงเมื่อคุณไกลจากเราเตอร์หรือสัญญาณอินเตอร์เน็ตที่อ่อนแรงหรือมีสิ่งกีดขวาง เช่น ผนังและพื้นจะนับเป็นอุปสรรคอย่างหนึ่ง หากมีตัวเลือกอื่นๆ ให้เปลี่ยนไปใช้การเชื่อมต่อแบบอื่นแทน -
อัปเดตแอปพลิเคชั่น
เป็นไปได้ว่าการใช้งาน Application เวอร์ชั่นเก่า ที่มีจุดบกพร่องและยังไม่ได้พัฒนา จะส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานหรือทำให้ขาดการเชื่อมต่อบ่อยครั้ง ความเร็วลดลง ไม่เสถียรเท่าตัวเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด การแก้ไขคือตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังใช้งานแอพเวอร์ชั่นล่าสุดอยู่
สรุปสาเหตุที่ทำให้เน็ตช้า เมื่อต่อ VPN
- ตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่เลือกใช้อยู่ไกลจากตำแหน่งจริงของคุณ
- การใช้เซิร์ฟเวอร์ที่ไม่เสถียรจาก VPN FREE
- โปรโตคอลที่ใช้งานยังไม่ดีเท่าที่ควร
- จำนวนผู้ใช้งานในเซิร์ฟเวอร์เดียวกันเยอะเกินไป
- การเชื่อมต่อระหว่าง VPN และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณไม่ดีพอ
- ประเภทอุปกรณ์ของคุณ (เช่น มือถือและแล็ปท็อป) และกำลังการประมวลผล เวอร์ชั่นการใช้งาน
สำหรับคนที่ยังไม่เคยใช้งาน VPN หรือกำลังมองหา VPN ที่ดีอยู่ขอแนะนำ BullVPN เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ดีที่สุด เรามีเซิร์ฟเวอร์ให้บริการมากกว่า 100+ เซิร์ฟเวอร์ใน 44 ประเทศทั่วโลก